Author name: hetrteram

หลายปีที่ผ่านมามีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดของ กล้อง Mirrorless นะครับ ซึ่งมันเหมาะมากๆสำหรับการนำไปท่องเที่ยวเก็บภาพบรรยากาศสำคัญๆ เพราะตัวกล้องเองมีขนาดเล็กกระทัดรัดกว่าพวกกล้อง DSLR เป็นอย่างมาก และในวันนี้ทีมงานของ HANG REVIEW จะรวบรวมเอา 5 อันดับกล้อง Mirrorless มาให้เพื่อนๆได้ชมในการเป็นตัวเลือกเพื่อซื้อเอาไว้สำหรับเก็บภาพความประทับใจเวลาไปท่องเที่ยวกันครับ 1. Fuji XT-10  เริ่มต้นกันที่กล้องตัวแรกอย่าง Fuji XT-10 ที่มีเซนเซอร์ขนาด APSC มีความละเอียด 16 ล้านเมกะพิกเซล และมีช่องมองภาพที่ดีมากและมีคุณสมบัติอื่นๆอีกมากมาย ในยุคแรกเริ่มนั้นทีมงานของ Fuji นั้นจะมีเฟิร์มแวร์ของทั้งตัวกล้องและเลนส์มาให้อัพเดทอยู่เสมอซึ่งทำให้กล้อง Fuji สามารถอัพเดทได้อย่างอิสระมากกว่าไม่เหมือนกับกล้องถ่ายภาพยี่ห้ออื่นเช่น Cannon หรือ Nikon ที่ไม่ค่อยมี firmware ออกมาให้อัพเดทซักเท่าไร โดยนอกเหนือจากจุดเด่นทางด้าน Firmware ในการนำมาปรับปรุงกล้องและเลนส์แล้วนั้น กล้อง Fuji XT-10 ยังได้เพิ่มการใช้เซนเซอร์ขนาด APS-C เพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งทางด้านกล้องสำหรับถ่ายภาพท่องเที่ยวอย่างรุ่น Sony a6000 และ Samsung NS500 ตัวอย่างภาพที่ถ่ายโดยกล้อง Fuji XT-10 ครับ        

ดินแดนแห่งขุนเขา ป่าหนึ่งเดียวที่สมบูรณ์ที่สุดของเมืองสุพรรณ เป็นชายป่าผืนสุดท้ายของป่าห้วยขาแข้ง เป็นสถานที่ที่เหมาะกับนักเดินทางทีหลงใหลในธรรมชาติ ความสงบเงียบ ป่าเขา น้ำตก ความงดงามงามของดวงอาทิตย์ยามเช้า ไอหมอก ความหนาวเย็น และวิถีชีวิตของชนชาวกระเหรี่ยง สถานที่กางเต็นท์มี 3 จุดใหญ่ๆ – หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 1 (ด้านวังคัน-ป่าขี) – ที่ทำการอุทยานฯ พุเตย (ด้านปลักประดู่-ห้วยหินดำ) – หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 3 ตะเพินคี่ (ด้านปลักประดู่-ตะเพินคี่) ป่าสนสองใบธรรมชาติ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 1มีประมาณกว่า 1,300 ต้น  อยู่บนเทือกเขาพุเตยเป็น ป่าแปลกมหัศจรรย ์เพราะป่าสนจะเจริญเติบโตในพื้นที่ภูเขาสูงชัน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป แต่ป่าสนแห่งนี้เจริญเติบโตบนพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 763 เมตรเท่านั้นสภาพป่าสมบูรณ์มาก จนได้รับเลือกให้เป็นศูนย์แม่พันธุ์ไม้สนสองใบในภาคกลาง บางต้นมีขนาดใหญ่วัดได้ถึง 2-3 คนโอบ ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ 1 (พุเตย) ประมาณ 12 กิโลเมตร หมู่บ้านกระเหรี่ยงตะเพินคี่

รวมฮิต 5 อันดับมุมถ่ายภาพ “ภูเขาไฟฟูจิ”ที่งดงามที่สุด ภูเขาไฟฟูจิยาม่า (FUJI) นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของโลกและของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และมักจะมีนักท่องเที่ยวและเวียนไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ ในวันนี้ทางทีมงาน HANG REVIEW จะมานำเสนอมุมใหม่ๆในการถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กัน ว่า5อันดับมุมมองที่สวยที่สุดหากคุณต้องการถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวสุดดังแห่งนี้จะต้องเป็นมุมไหนบ้าง ลองตามเรามาชมกันเลยครับว่าแต่ละที่จะถ่ายภาพของภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้ออกมางดงามมากแค่ไหน … เริ่มจากอันดับ 5 ฟุจิกับไร่ชาในจังหวัด Shizuoka 第5位　茶畑と富士山 （静岡県富士市） สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นรู้ๆกันว่าเขตจังหวัดนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องไร่ชาอยู่แล้ว  แต่ถ้าจะให้ได้ภาพสีเขียวชอุ่มสดชื่นของไร่ชาที่ปลูกเป็นแถวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าจัด และก้อนหิมะขาวบนยอดฟูจิที่ถือเป็น 3 ไอเทมที่คอนทราสท์สุดๆที่ตากล้องญี่ปุ่นต้องการล่ะก็   ต้องไปที่เมืองFuji เขตImamiya ค่ะ เราพยายามตามเข้าไปดูในบล็อกที่ญี่ปุ่นคุยๆกันเรื่องตำแหน่งที่ถ่ายภาพ   ดูเหมือนจะยากอยู่สำหรับเราๆเพราะไม่ใช่ลงรถไฟแล้วปึ๊งถึงเลย ต้องเป็นรถยนต์ส่วนตัวและแถวนั้นเป็นถนนในไร่เป็นส่วนใหญ่    แต่ใครจะตามไปตามพิกัดในแผนที่กู๋ก็ตามนี้นะ แอบคุยกันว่าใบชาอ่อนที่ลัดออกมาใหม่ๆจะสะท้อนแสงสวยเป็นพิเศษ   และที่ต้องเป็นพิกัดแถวๆนี้เพราะว่าแนวของไร่ชาที่ตัดตรงหรือเฉียงๆเข้าไปหาภูเขาไฟฟูจิเป็นอะไรที่สวยมากๆครับ สำหรับการถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ LOCATION MAP อันดับ 4 หงส์ขาวกับฟูจิซัง  (ทะเลสาบYamanaka, จังหวัดYamanashi) 第4位　白鳥と富士山　（山梨県山中湖） วิวนี้ถ้าจะเอาเพอร์เฟคต้องไปฤดูหนาว   เพราะช่างภาพเขาอยากได้ภาพน้องหงส์กำลังเล่นน้ำบนแผ่นน้ำสีเย็นเป็นน้ำแข็ง ที่เปรียบเสมือนเป็นเวทีให้น้องหงส์มาร่ายรำโดยมีฟูจิซังที่มีหิมะขาวปกคลุมหนาสูงตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ช่างภาพบอกว่าถึงจะหนาวฝุดๆ  แต่ถ้าได้ภาพน้องหงส์เล่นน้ำแล้วล่ะเป็น ความปิติที่ไม่มีอะไรมาแลกได้เลย LOCATION MAP  —————————————————————————————————————————————————— อันดับ 3 ซากุระสะพรั่งกับฟูจิซังแสนสวย  (เมือง Fujinomiya จังหวัดShizuoka) 第3位　さくらと富士山　（静岡県富士宮市）

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่สามารถเรียนรู้วิถีเกษตรอย่างแท้จริงตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการแปรรูป โดยไม่ใช้สารเคมีทุกชนิด ใช้ปุ๋ยธรรมชาติที่ได้จากครัวเรือนอย่างครบวงจร มีการจัดระบบองค์ความรู้นำเสนอนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยจัดทำเป็นฐานการเรียนรู้สำหรับเรียนรู้วิถีเกษตร พร้อมวิทยากรบรรยายซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น การปลูกส้มโอโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี การทำน้ำตาลมะพร้าว เห็ดโอ่ง ถั่วงอกมือถือ ผลไม้กลับชาติ เป็นต้น ชุมชนแห่งนี้ ชาวบ้านสวนใหญ่เป็นชาวสวนดั้งเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ จึงมีการรวมกลุ่มกันจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ในรูปแบบของมหาวิชชาลัย ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อความเป็นระบบขององค์ความรู้ที่มีและเพื่อการถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการ เกษตรไปยังชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย จนท้ายที่สุดมีการพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ วิถีชุมชนชาวสมุทรสงคราม โดยมีฐานการเรียนรู้ มากถึง 15 ฐาน เช่น การเผ่าถ่านผลไม้ การทำน้ำส้มควันไม้ การผลิตปุ๋ยน้ำ การปลูกส้มโอปลอดสารพิษ ปั่นจักรยานชมสวนมะพร้าว การทำน้ำตาลมะพร้าวและที่น่าสนใจไม่ค่อยได้เห็นที่ไหรคือการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ มีชื่อเก๋ไก๋ว่า ผลไม้กลับชาติ คือการนำเอาผักผลไม้ต่างๆ เช่น บอระเพ็ด มะนาว มะระ มะระกอมาแช่อิ่มได้ผักผลไม้ที่ไม่มีรสชาติดั้งเดิมอยู่เลยและมีสีสันสวยงามมากๆ ที่นี่มีทั้งผลิตภัณฑ์ที่ขายนักท่องเที่ยวและมีการสาธิตการทำให้ดูด้วย ชุมชนบ้านบางพลับเป็นชุมชนที่มีความเรียบง่าย ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำสวนผลไม้ ได้แก่ ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ ชมพู่ ลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าวน้ำหอม รวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ นอกจากนี้ชุมชนบ้านบางพลับยังเป็นส่วนหนึ่งของถนนสายผลไม้ของ จังหวัดสมุทรสงคราม ในโครงการเข้าชมสวนลิ้นจี่

HANG REVIEW : วันนี้นั้นเราจะมาชวนเที่ยวเกาะอาดัง-ราวี คำว่า “อาดัง” มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า “อุดัง” มีความหมายว่า “กุ้ง” เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล และมีความสวยงามของหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวสุดสายตา จะสวยงามแค่ไหนไปดูกันเลย เกาะอาดัง-ราวี เกาะอาดัง-ราวี อยู่ที่จังหวัด สตูล เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงามมาก ๆ ทรายขาวละเอียด รอบ ๆ เกาะมี เกาะเล็กเกาะน้อย หลายเกาะ เช่น  เกาะหลีเป๊ะ เกาะดง เกาะหินงาม และเกาะยาง ซึ่งเป็นที่เหมาะแก่การดำน้ำตื้นมาก บริเวณ เกาะอาดัง-ราวี มีน้ำตกที่มีน้ำไหลอยู่ตลอด คือ  น้ำตกโจรสลัด แถมยังมีจุดชมวิว ผาชะโด ขึ้นไปบน ผาชะโด จะเป็นพื้นที่โล่งกว้างมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศของต้นสนและทรายสีขาวทอดยาวของ เกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ะ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ต้องลองไปชมสักครั้งในชีวิต จุดชมวิวผาชะโด เรียบเรียง : HANG REVIEW ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.phudoilay.com/ Tags : ผาชะโด อาดัง เกาะหลีเป๊ะ

HANG ชวนเที่ยว : วันนี้เราจะมาไปชมของดี เมืองสงขลา หาดสมิหลาหรือแหลมสมิหลา เป็นหาดที่มีตำนานเล่าขานมากมาย และ วิวทิวทัศน์สวยงามมาก หาดสมิหลา หาดสมิหลา สถานที่ท่องเที่ยวที่มาจังหวัด สงขลา ไม่แวะไปเที่ยวเหมือนมาไม่ถึง หาดสมิหลา มีหาดทรายที่สวยงามขาวสะอาด ต้นสนเรียงตัวเป็นทิวแถวร่มรื่น ไฮไลท์ที่นี้คือ รูปปั้นนางเงือก ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด สงขลา และมีรูปปั้นหนูแมว รอบ ๆ หาดมองไปจะเห็น เกาะหนูเกาะแมว ที่มีตำนานเรื่องเล่า  “มีพ่อค้าชาวจีนผู้หนึ่งคุมเรือสำเภาเดินทางมาค้าขายระหว่างจีนกับสงขลาเป็นประจำ วันหนึ่งพ่อค้าผู้นี้ได้ซื้อหมากับแมวลงเรือไปเมืองจีนด้วย หมากับแมวอยู่บนเรือนานๆเกิดความเบื่อหน่ายจึงปรึกษาหาวิธีการที่จะกลับบ้าน หมากับแมวได้ทราบว่าพ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่ทำให้ไม่จมน้ำ แมวจึงคิดอุบายโดยให้หนูไปขโมยแก้ววิเศษของพ่อค้ามา และหนูขอหนีขึ้นฝั่งไปด้วย ทั้งสามว่ายน้ำหนีลงจากเรือโดยที่หนูอมดวงแก้วเอาไว้ในปาก ขณะนั้นหนูนึกขึ้นได้ว่าถ้าถึงฝั่ง หมากับแมวคงจะแย่งเอาดวงแก้วไปจึงคิดที่จะหนี ฝ่ายแมวซึ่งว่ายตามหลังมาก็คิดเช่นกัน จึงว่ายน้ำรี่ไปหาหนู หนูตกใจว่ายน้ำหนีไม่ทันระวังตัว ดวงแก้ววิเศษที่อมไว้จึงตกลงจมหายไปในน้ำ หนูและแมวต่างก็หมดแรงจมน้ำตายกลายเป็นเกาะหนูเกาะแมวอยู่ที่อ่าวหน้าเมือง ส่วนหมาตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่งและสิ้นใจตายด้วยความเหน็ดเหนื่อยกลายเป็นหินบริเวณเขาตังกวนอยู่ริมอ่าวสงขลา ดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนูแตกละเอียดกลายเป็นหาดทรายแก้วอยู่ทางด้านเหนือของแหลมสน” เดินทาง เรียบเรียง : HANG REVIEW ขอบคุณข่อมูลจาก : ททท.