ข่าวสารการท่องเที่ยว

ฤดูฝนนี้ บอกตรง !! การไปเที่ยวอ่ะหรอเป็นที่รู้กันอยู่ครับ สายเดินป่าสายธรรมชาติต้องมีครับผม ทั้งสายน้ำที่ไหลหลั่ง ป่าไม้เขียวชอุ่ม และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาตินี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อนๆ Hang ที่อยากจะออกเดินทางไปตามหาความงดงามของธรรมชาติในหน้าฝนนี้ เพราะไม่อยากจะนั่งริมหน้าต่าง เซงๆติดฝนอยู่บ้านเฉยๆ  วันนี้เรามีเคล็ดลับการเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนเที่ยวป่าหน้าฝน ให้เราได้เที่ยวอย่างสนุกและปลอดภัยกันเน้อ.. 1.สถานที่ท่องเที่ยว คือเป็นเรื่องปกติเลยเราจะไปที่ไหนก็ควรเป็นอย่างยิ่ง ที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไป ข้อมูลไม่รู้จะหาไหน ก็จัดเลยดูๆใน www.Hangreview.con ได้นะ(อิอิ หนวดรอ) เพื่อค้นหาที่ตั้ง และเตรียมพร้อมการเดินทาง รวมถึงตรวจสอบสภาพอากาศในช่วงที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวให้รู้รายละเอียดเบื้องต้นว่าเราสามารถไปท่องเที่ยวได้หรือไม่ โดยอาจจะโทรศัพท์ไปสอบถามจากหน่วยงานท้องถิ่นในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ที่ทำการอุทยานฯ หน่วยงานบริหารส่วนตำบล ส่วนจังหวัด หรือสำนักงานการท่องเที่ยวประจำแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ 2.การแต่งกาย เสื้อผ้าที่สวมใส่ในกิจกรรมเดินป่า ควรเป็นผ้าเนื้อแบบแห้งง่ายไม่อุ้มน้ำ ก็ลองอุ้มน้ำไปสิหนวดรับลองได้เลยอับแน่ๆ 5555+ ยิ่งหน้าฝนนะแหม  ต้องทะมัดทแมงต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย และควรเตรียมชุดนอนไว้อีกหนึ่งชุด ในวันถัดไปก็สามารถสวมชุดเดินป่าชุดเดิมได้ ส่วนชุดที่จะใส่กลับบ้านนั้นควรแบ่งเก็บไว้ที่อุทยานฯ หรือฝากไว้ในรถก่อนก็ได้ นอกจากนี้ควรเตรียมเสื้อกันฝนสำหรับรับมือกับฝนตกหนัก อีกอย่างนะไม่ควรใส่เครื่องประดับ มันจะทำให้คุณสบายขึ้นในการเดินทางไม่อึดอัด รองเท้านี้เน้นเลยต้องเป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย ไม่อุ้มน้ำทำความสะอาดได้ง่าย สวมใส่รองเท้ายางได้จะดีมากครับ 3.กระเป๋าเดินทางหรือเป้สัมภาระ ก่อนใส่เสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใช้ลงไปควรใส่ถุงพลาสติกที่มีขนาดทัดเทียมกับกระเป๋าลงไปก่อน แล้วจึงค่อยใส่เสื้อผ้าสัมภาระลงไป เมื่อครบเรียบร้อยแล้วจึงปิดปากถุงและปิดกระเป๋า ใส่ทำไมหนะหรอ หนวดจะบอกว่าหน้าฝนนะน้ำมันเยอะ อีกอย่างเราไปแบบลุยๆ […]

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว HANG REVIEW พบกันอีกครั้งแล้วนะครับกับพี่หนวดเช่นเคย ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆเตรียมขึ้นเขาไปชมทะเลหมอกกันครับซึ่งเข้าสู่ช่วงปลายปีกันพอดี ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนั้นเตรียมตัวสวยงามกันแล้ว และวันนี้พวกเราทีมงาน นั้นได้ทำการรวบรวมเอา 5 อันดับจุดชมทะเลหมอกในเมืองไทย ซึ่งมีรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเราเคยไปมาแล้วถึง 2 ที่ด้วยกัน แต่ละที่จะงดงามแค่ไหนตามไปชมกันเลยครับผม … ***และหากใครยังไม่มีที่จองตั๋วแนะนำ Traveloka เลยครับหนวดการันตี!! ***  – จองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka – https://www.traveloka.com/th-th/ 1.ภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fah) เริ่มต้นกับที่แรกกันครับนั่นคือสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ภูชี้ฟ้า” ที่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ซึ่งไม่ควรพลาด ภาพขณะแสงตะวันค่อยๆ โผล่ขึ้นจากขอบฟ้าและทะเลหมอกขาวแผ่คลุม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ รวมไปถึงเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามที่สุดของจังหวัดเชียงรายเลยทีเดียวครับสำหรับจุดนี้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร เมตร โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว รับรองครับว่าที่นี่สวยงามอย่างแน่นอน _______________________________________ 2.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (Phu Kradung National Park) “การพิชิตภูกระดึง” นั้นถือเป็นคำที่เราได้ยินมานานมากแล้วเพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นดังมากในช่วงแรกๆ โดยคำว่า ภูกระดึงชื่อนี้มีความหมายว่า

5 ข้อที่ควรทำ 2.พอเข้าสู่วันปีใหม่ 1 มกราคม ให้ตื่นแต่เช้าเพื่อไปเข้าวัด ทำบุญ ตักบาตร ถือศีล ปฏิบัติธรรม ให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส พร้อมกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร และญาติผู้ล่วงลับ เพื่อเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ปีใหม่ที่ดี 3.เมื่อทำบุญแล้วอย่าลืมที่จะเติมน้ำมันและไฟตะเกียง เพื่อให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สว่างไสวตลอดทั้งปี ต่อดวงชะตาอายุของชีวิตให้ยืนยาว 4.จากนั้นเมื่อกลับมาบ้าน ให้นำพระพุทธรูปที่บูชา ออกมาเช็ดทำความสะอาด พร้อมอาบน้ำมนต์ผสมน้ำอบและดอกไม้เพื่อเป็นการเสริมมงคลให้กับชีวิต 5.สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำดีและแสดงความเคารพต่อบุพการี โดยให้ทำการล้างเท้าพ่อและแม่ รวมทั้งนำพวงมาลัยสวย ๆ ไปไหว้ขอพรจากท่าน เพราะพรจากบุพการีถือเป็นพรที่ประเสริฐในชีวิต เพื่อต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี 5 ข้อที่ไม่ควรทำ 2.ในวันปีใหม่ไม่ควรใช้ของมีคม เช่น กรรไกร ที่ตัดเล็บ ฯลฯ เพราะของมีคมเปรียบเหมือนการตัดสิ่งดี ๆ ที่กำลังจะเข้ามา รวมถึงให้ระมัดระวังสิ่งของภายในบ้านไม่ให้หล่นแตก เพราะเชื่อว่าเป็นลางไม่ดี จะเจอแต่เรื่องร้าวรานจิตใจและเรื่องโชคร้าย 4.ห้ามคิดเรื่องที่ไม่ดี รวมถึงงดพูดคำหยาบคายและทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ห้ามทำสิ่งที่ไม่ดีในวันปีใหม่ หรือประพฤติตนในแง่ลบ เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่เรื่องเดือดร้อนและเกิดสิ่งไม่ดีตลอดทั้งปี 5.หลีกเลี่ยงการไปงานศพในวันปีใหม่ รวมถึงไม่ควรฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สิ่งที่เราได้ยกมาแนะนำเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ไม่ว่าจะเทศกาลไหน

7 เหตุผล ทำไมคนเที่ยวบ่อยถึงประสบผลสำเร็จมากกว่า (Ver.เที่ยวผิดตรงไหน มีแต่ดี) หากทุกวันนี้ชีวิตของคุณเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และความเครียดจากการทำงาน บ่อยครั้งที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้า และหมดแรงที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณต้องการหยุดพักหรือต้องการพักผ่อนแล้ว ดังนั้น หากคุณทำงานหนักมาตลอดทั้งปี คุณควรจะหาเวลาให้ตนเองได้ท่องเที่ยวบ้าง อย่างน้อยปีละครั้งก็ยังดี และไม่ว่าคุณจะตัดสินใจไปท่องเที่ยวในหรือนอกประเทศก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้นค่ะ การท่องเที่ยวจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีชีวิตชีวา นอกจากนี้มันยังส่งผลดีต่อชีวิตการทำงานของคุณอีกด้วย แต่หากคุณยังนึกไม่ออกว่าการท่องเที่ยวมีประโยชน์ต่อชีวิตการทำงานอย่างไรบ้าง บทความนี้จะเปิดเผยเหตุผล 7 ข้อ ที่การท่องเที่ยวจะช่วยสนับสนุน ให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มากกว่าตอนที่คุณไม่ออกไปเที่ยวไหนเลย 1. คุณจะมีทัศนคติเปิดกว้าง และมองโลกในแง่ดียิ่งขึ้น การท่องเที่ยวในโลกกว้างช่วยให้คุณเปิดใจ และมีทัศนคติที่กว้างยิ่งขึ้น เพราะระหว่างการเดินทางคุณจะได้พบเจอกับสิ่งแปลกใหม่ และความแตกต่างหลากหลาย และนั่นทำให้คุณรู้สึกว่าโลกนี้ยังมีอะไรให้คุณเรียนรู้อีกมาก ประสบการณ์เหล่านี้จะทำให้ทัศนคติและมุมมองของคุณเปลี่ยนไป คุณจะรู้จักยืดหยุ่น และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นซึ่งสิ่งนี้ส่งผลต่อพฤติกรรมการทำงานของคุณ จากผลวิจัย ผู้ที่ทำงานออฟฟิศจำนวนหนึ่งระบุว่า หลังจากที่พวกเขากลับมาจากการเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ พวกเขามีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น มีจิตใจที่สดใส และมีพลังมากขึ้น แต่ที่เห็นได้ชัดก็คือ พวกเขามองโลกในแง่ดี และพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการทำงานคุณจำเป็นต้องใช้ทักษะในการบริหารจัดการ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการท่องเที่ยวช่วยให้คุณเพิ่มพูนทักษะดังกล่าวได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณวางแผนที่จะไปท่องเที่ยงยังประเทศหนึ่ง คุณต้องเตรียมตัวและคาดการณ์ถึงสิ่งต่างๆที่อาจเกิดขึ้นก่อน ระหว่าง และหลังการเดินทาง คุณต้องจัดการแผนเดินทาง สัมภาระ

1. คนน้อยไม่พลุกพล่าน ข้อดีสุดๆ เมื่อคุณวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนในวันธรรมดาคือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยมากๆ เมื่อเที่ยวกลับช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนก็ไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งกัน แย่งกันเที่ยว แค่นี้ก็ฟินแล้ว 2. นอนโรงแรมเก๋ๆ ในราคาสุดคุ้ม  ของถูกและดียังมีในโลกกันอยู่นะ โดยเฉพาะการจองห้องพักในช่วงวันธรรมดา นอกจากจะได้นอนโรงแรมหรูๆ ในราคาสบายกระเป๋าแบบลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์แล้ว ห้องพักวิวสวยๆ ราคาเกินเอื้อม ก็จะหั่นราคาลงมาครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว  หรือบางทีเรายังขออัพเกรดห้องพักของเราให้หรูหราง่ายขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย 3. ถนนโล่ง ขับรถสบาย แน่นอนว่าคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศชิลล์ๆ แบบนี้เมื่อไปเที่ยวในวันธรรมดาแน่นอนอยู่แล้วว่า คนส่วนใหญ่มักจะแห่ไปเที่ยวกันแน่นขนัดในช่วงวันหยุดหรือช่วงเทศกาล ถนนสายหลักๆ มักจะรถติดคิวยาวเป็นหางว่าว จากที่เคยเดินทางไปกลับแค่ 3-4 ชั่วโมง อาจเพิ่มระยะเวลาเป็นสิบชั่วโมงแทนก็ได้เพราะฉะนั้นมาเที่ยววันธรรมดากัน ถนนโล่งรถไม่ติด มีชัยไปกว่าครึ่งนะจะบอกให้ จะดีกว่ามั้ยถ้าหากเราเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว ยิ่งเที่ยวเยอะ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจดีภาพรวมขของประเทศโตมากขึ้น และที่สำคัญไม่ต้องจำกัดเฉพาะแค่วันหยุดหรือเทศกาล เพราะวันธรรมดาอย่างวันจันทร์ – พฤหัสบดี ก็เที่ยวสนุกได้ แถมยังได้ประสบการณ์การท่องเที่ยว ที่สนุกและหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย 5. ช็อปปิ้งเพลินๆ ไม่ต้องแย่งใคร  แน่นอนว่าช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ร้านขายของฝากจะต้องแออัดไปด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะเสียเงิน แต่ถ้าหากลองมาช็อปในวันธรรมดาดูบ้างล่ะ คุณอาจจะได้ของฝากดีๆ ในจำนวนที่เยอะ และที่สำคัญราคาก็น่ารักเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อีกด้วย 6. ตั๋วเครื่องบินลดกระหน่ำ เช็คอินสบายๆ   นอกจากที่พักจะราคาถูกแสนถูกแล้ว

1.หมู่เกาะมัลดีฟส์ สำหรับเกาะมัลดีฟนั้นถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคู่รักอันดับหนึ่งของโลกเลยทีเดียวในการจัดอันดับของนิตยสารชื่อดังของการท่องเที่ยวหลายๆสำนัก โดยที่ท่องเที่ยวอย่างหมู่เกาะมัลดีฟส์ยังคงมีความสวยงามของท้องทะเลสีฟ้าครามและหมู้่เกาะปะการังแบบธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่แทบจะ 100% ทำให้คุณต้องประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แน่นอน โดยประกอบไปด้วยบรรยากาศรอบด้านที่โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลรอบทิศทาง รวมไปถึงมีที่พักริมทะเล ต่างๆมากมายอยู่รายรอบเกาะ ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าคุณและคนรู้ใจนั้นได้มาท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้นั้นจะต้องรู้สึกมีความสุขในชีวิตคู่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว 2.เมืองเวนิส, ประเทศอิตาลี แหล่งท่องเที่ยวแห่งที่สองสำหรับเหล่าบรรดาคู่รักสุดโรแมนติกนั้นได้แก่ “เมืองเวนิสหรือเมืองเวเนเซีย” สุดยอดแหล่งท่องเที่ยว     สุดโรแมนติกที่มีความสวยงาม โดยจุดเด่นสุดๆที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็คือการได้ล่องเรือไปตามแม่น้ำ ซึ่งเป็นเรือกอนโดร่าแบบโบราณที่มีเฉพาะในเมืองเวนิสนี้เท่านั้นทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและความสวยงามของเมืองแห่งนี้ได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ในที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังประกอบไปด้วย มุมสวยๆสำหรับถ่ายภาพ, คาเฟ่ร้านกาแฟตกแต่งสวยๆ หรือดิร้านอาหารค่ำสุดหรูหราที่ทำให้ความรักของคุณนั้นต้องสดใสขึ้นแน่นอน 3.บาหลี, ประเทศอินโดนีเซีย  หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยงามของประเทศอินโดนีเซียและของเอเชียอย่าง “เกาะบาหลี, ประเทศอินโดนีเซีย”  ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมของอารยธรรมเก่าแก่ รวมถึงยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดส่วนตัวที่เหมาะในการไปกับแฟนเป็นอย่างมาก เพราะทำให้คู่รักนั้นมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่ท่องเที่ยวสุดแสนธรรมชาติ โดยจุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็จะประกอบไปด้วยการปีนภูเขาสูง. การชื่นชมธรรมชาติในป่าเขาและเล่นน้ำทะเลท่ามกลางหาดทรายขาว อีกทั้งยังอยู่ใกล้บ้านเราอีกด้วยทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ไม่ยากเย็นเท่าไรนัก 4.เกาะฮาวาย, ประเทศสหรัฐอเมริกา  อีกหนึ่งเกาะกลางทะเลที่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแสนสวยงามสุดโรแมนติก นั่นคือ “หมู่เกาะฮาวาย” ของประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง โดยฮาวายนั้นตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปรซิฟิก ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่มักจะได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะทะเลของที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและความสวยงามไว้ได้อย่างครบถ้วน สำหรับเกาะใหญ่ๆที่เหมาะสมสำหรับเล่นน้ำทะเลนั้น ได้แก่ เกาะKaui), เกาะ Nihau, เกาะ Oahu ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ทำให้คุณนั้นจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของธรรมชาติคงเหลืออยู่มากแห่งหนึ่งของโลก 5.หมู่เกาะบาฮามาส อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในหมู่เกาะแคริเบียนอย่างเจ้าหมู่เกาะบาฮามาส (The Islands of the Bahamas) โดยสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลแห่งนี้นั้นประกอบด้วยเกาะขนาดเล็กกว่า 3,000 เกาะ แต่ว่าทั้งหมดนั้นเป็นเกาะที่มีผู้อาศัยอยู่เพียงประมาณ 30 เกาะเท่านั้น โดยจุดเด่นของที่นี่คือทริปการท่องเที่ยวทางทะเล มีแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความสวยงามเป็นอย่างมาก สีน้ำทะเลฟ้าใสสวยๆตัดกับท้องฟ้าครามซึ่งยังคงรักษาความงดงามทางธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี หากคู่รักคู่ไหนสนใจที่จะไปท่องเที่ยวแถบทะเลแคริบเบียน